3% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 1.
5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นรองเพียงสหรัฐ และซาอุดิอาระเบียที่ผลิตได้ 18. 6 และ 10. 86 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายสำคัญ โดยส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่ 4.
ปัจจุบันการติดตั้งโซล่าเซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หลายธุรกิจกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทย รวมถึงในสหรัฐอเมริกาและแบรนด์ชั้นนำระดับโลกก็ได้หันมาลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นหากเปรียบเทียบกับในอดีต โดยในปี 2019 สมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ หรือ Solar Energy Industries Association (SEIA) ได้มีการรวบรวมติดตามการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในธุรกิจต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา แต่จะมีธุรกิจไหนบ้าง ตาม BAAN ENERGY มาดูกันเลยครับ Apple — 389. 3 MW Apple บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่หลายท่านคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ติดอันดับ 1 ในรายชื่อของ SEIA โดยในปี 2019 Apple ถือเป็นผู้นำประเทศที่มีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์มากที่สุด มีการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากถึง 389. 3 เมกะวัตต์ (MW) และในปัจจุบัน Apple ประกาศว่ามีซัพพลายเออร์กว่า 110 รายทั่วโลกที่กำลังจะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% สำหรับการผลิตให้กับ Apple หากโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 15 ล้านเมตริกตันต่อปีซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนน 3. 4 ล้านคันในแต่ละปี นอกจากนี้ Apple ยังลงทุนโดยตรงกับโครงการพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูงส่วนหนึ่ง รวมถึงโครงการเกี่ยวกับพลังงานใหญ่ๆ ในแคลิฟอร์เนียอีกด้วย Amazon — 369.
4 กิกะวัตต์ IEA ประเมินว่า กำลังการผลิตใหม่รายปี จะลดลงเล็กน้อยในปี 2564 และ 2565 อยู่ที่ 38. 2 และ 35. 3 กิกะวัตต์ตามลำดับ ส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่จากพลังงานลม ปี 2563 จีนมี 29 กิกะวัตต์ แต่ IEA คาดว่า กำลังการผลิตใหม่รายปีจะลดลงในปี 2564 และ 2565 อยู่ที่ 22. 5 และ 18 กิกะวัตต์ เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และลมหมดอายุไปแล้ว สำหรับโครงการบนบก และกำลังจะหมดอายุลงในปี 2564 สำหรับโครงการในทะเล ในช่วงการเปลี่ยนผ่านนโยบายสนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน คงต้องรอดู ท่าทีรัฐบาลจีนว่า จะต่ออายุมาตรการหรือออกสิทธิประโยชน์อะไรมาสนับสนุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนให้ไปได้ต่อ หรือสร้างความเชื่อมั่นให้แต่ละบริษัทในการวางแผนโครงการต่อไปในอนาคต แต่ที่ต้องยอมรับในภาพใหญ่ คือ จีนครองสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากที่สุดในโลก นับแค่ปี 2563 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49. 22 จากกำลังผลิตรวม 173. 3 กิกะวัตต์ทั่วโลก สูงกว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่มีกำลังการผลิต 29 และ 26. 1 กิกะวัตต์ตามลำดับ ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า รู้หรือไม่ว่า สิ้นปี 2563 มีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งอยู่บนถนนทั่วโลกถึง 11.
16 ส่วนผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ร้อยละ 141. 77 (ข้อมูล ณ 30 กรกฎาคม 2564) บทความโดย Jitta Wealth ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
24 แสนล้านยูนิต จาก 1. 06 แสนล้านยูนิต ในปี 2019 แต่ราคาถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่เป็นแหล่งนำเข้าถ่านหินใหญ่เพิ่มขึ้นจาก 60 ดอลลาร์ต่อตัน ในเดือนมีนาคม เป็น 240 ดอลลาร์ต่อตัน ในเดือนตุลาคม ทำให้อินโดนีเซียส่งออกน้อยลง เราวิเคราะห์ว่าปัญหาการผลิตที่ขาดแคลน ท่ามกลางความต้องการระดับสูงใน 2 ตลาดหลักของโลก จะทำให้ถ่านหินยังคงขาดแคลนในวงกว้าง โดยองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) คาดว่าความต้องการถ่านหินจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4.
2% ฉะนั้น "วิกฤติยูเครน" จึงกลายเป็นความเสี่ยงที่สำคัญอย่างหนึ่งของโลกในช่วงต้นปี 2565 นี้ ----------------------------------------------------- อ้างอิง bp Statistical Review of World Energy 2021 Oil Reserves by Country 2022 U. S. Energy Information Administration World's Top Exports