6 สูตรขนมไทยเชื่อม เนื้อเงาวับหวานฉ่ำน้ำเชื่อมใครก็ทำได้ | อาหาร, การทำอาหาร, ขนมหวาน
กราบสวัสดีสาว ๆ ทั้งหลาย วันนี้มาแบบกุลสตรีไทยนิดนึงเพื่อให้เข้ากับธีมขนมไทยที่จะนำมาเสนอ ซึ่งหญิงไทยใจงามแบบ Jelly จะพาทุกท่านไประเบิดครัว เอ้ย! ไปเข้าครัวทำขนมหวานไทยแบบง่ายเอาไว้ทำทานคลายร้อนในวันที่อุณหภูมิสูงปรอทแตก ได้ขนมหวานเย็นเข้าไปคงชื่นใจดีไม่น้อย เตรียมสมุดกับปากกาไว้ให้พร้อมแล้วเตรียมจดกันเล้ยยย! 1. เฉาก๊วยทรงเครื่อง ขนมหวานเมนูนี้ไม่ต้องมีสกิลความเป็นแม่ศรีเรือนสูงส่งก็สามารถทำทานได้นั่นก็คือ "เฉาก๊วยทรงเครื่อง" วุ้นสีดำนุ่มหนึบที่ทำจากหญ้าเฉาก๊วยมีสรรพคุณช่วยดับกระหายคลายร้อน ผสมผสานเข้ากับความหอมหวานจากน้ำตาลทรายแดง ทานคู่กับน้ำแข็งบดเย็นชื่นใจ อร่อยเริ่ด! ทางที่ดีควรใช้เนื้อเฉาก๊วยสำเร็จรูปเป็นดีที่สุด ส่วนผสม 1. เนื้อเฉาก๊วยสำเร็จรูป 2. น้ำตาลทรายแดง 3. น้ำแข็งบด 4. ธัญพืชต่างๆ เช่น แปะก๊วย, ลูกเดือย, พุทราเชื่อม เป็นต้น วิธีทำ 1. นำเนื้อเฉาก๊วยมาตัดตามขนาดและรูปทรงตามชอบ ใส่ในภาชนะที่จัดเสิร์ฟ 2. ใส่ธัญพืชตามชอบ 3. ใส่น้ำแข็งบด 4. ใส่น้ำตาลทรายแดง เติมนมสดหรือชาเขียวชาเย็นตามชอบ 2. ผลไม้ลอยแก้ว สิ่งที่เมืองไทยของเราดูเหมือนจะไม่เคยขาดเลยก็คือผลไม้ เมนูขนมหวานที่เหมาะกับหน้าร้อนอีกหนึ่งอย่างก็ต้องเป็น "ผลไม้ลอยแก้ว" ในน้ำเชื่อมหวาน ๆ เติมน้ำแข็งลงไปคือสุดยอดแห่งความฟิน ความสนุกของการทานคือการได้ใส่ผลไม้ที่เราชอบเข้าไป ยิ่งทำทานเองยิ่งสามารถเลือกได้เอาที่สบายใจเลย!
ส่วนผสมกะทิ 1. น้ำกะทิ 4 ถ้วย (หัวกะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 3 ถ้วย) 2. น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วย 3. เกลือป่น 1 ช้อนชา 4. เทียนสำหรับอบขนม ส่วนผสมตัวขนม 1. แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย 2. น้ำใบเตย 4 ถ้วย 1. เตรียมน้ำกะทิโดยการต้มน้ำกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ ต้มให้พอเดือดใช้ไฟอ่อน 2. ตักกะทิใส่ในภาชนะที่ปิดได้ จุดเทียนอบ จากนั้นปิดฝาให้ควันเทียนอบอวลอยู่ในภาชนะที่เราใส่กะทิแล้วพักไว้ 3. นำแป้งมันผสมเข้ากับน้ำใบเตย คนแป้งให้ละลาย จากนั้นใส่ในกระทะทองเหลือง กวนแป้งด้วยไฟอ่อนจนแป้งสุกเหนียวใส นำแป้งที่สุกออกพักไว้จนอุ่นจับได้ 4. เด็ดแป้งออกมาเป็นชิ้นๆ ใส่ลงในกะทิที่อบเทียน เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง 6. เต้าทึงน้ำลำไย ขนมหวานที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมือมากมายเพียงแต่ใช้เวลาในการเตรียมวัตถุดิบซักเล็กน้อย เนื่องจากความหลากหลายของเครื่องที่ใช้ใส่ขนมหวาน เวลาทานเย็น ๆ คือมีความปลื้มปริ่มด้วยกลิ่นหอมหวานของน้ำลำไย ความกรุบของน้ำแข็ง และเนื้อสัมผัสที่หลากหลายของธัญญาพืช นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์อีกด้วย 1. ลำใยแห้ง 2. เม็ดบัวต้มสุก 3. เม็ดเดือยต้มสุก 4. ถั่วแดงต้มสุก 5. พุทราจีนเชื่อม 6. รากบัวเชื่อม 7. แปะก๊วยต้มสุก 8. น้ำตาลทรายแดง 9.
ไข่เป็ด 5 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง) วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) 2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี 3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้) 4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงเม็ดขนุน 5. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลและน้ำเปล่า นำไปเคี่ยวในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้) จนเหนียวข้นเป็นยางมะตูม จึงปิดไฟ 6. ตอกไข่และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงมารวมกัน เขี่ยพอให้ไข่แดงแตก จากนั้นจึงนำเม็ดขนุนที่ปั้นเตรียมไว้ใส่ลงไปแช่ในไข่แดงทีละเม็ด แล้วจึงนำไปใส่ในน้ำเชื่อม พยายามอย่าให้ติดกัน พอใส่ลงไปมากแล้วจึงนำกระทะไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนสุกทั่งจึงตักออกมาพัก ทำซ้ำเช่นนี้จนเม็ดขนุนที่ปั้นไว้หมด 7.
1. ผลไม้ตามชอบ 2. น้ำตาลทราย 250 กรัม(ปรับเพิ่มลดได้ตามชอบ) 3. น้ำเปล่า 300 กรัม 4. มะตูมแบบผง 250 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 5. เกลือป่นเล็กน้อย 6. น้ำแข็งบด 1. เตรียมน้ำเชื่อมสำหรับลอยแก้วโดยการต้มน้ำตาล น้ำเปล่า มะตูมผงและเกลือจนละลายดี 2. หั่นผลไม้ให้พอดีคำ 3. ใส่ผลไม้ที่เตรียมไว้ลงไปต้มในน้ำเชื่อม ปรับรสตามชอบ 4. จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง ใส่ผงมะตูมเพิ่มความหอม 3. แตงไทยน้ำกะทิ ขนมหวานที่เรียกได้ว่าหาทานยากเข้าไปทุกวันอย่างแตงไทยน้ำกะทิหรือ "กะทิแตงไทย" ขนมหวานที่ประกอบไปด้วยแตงไทยรสชาติหวานอ่อน ๆ เนื้อนิ่มหอมจับคู่กับกะทิหวานมันตามแบบฉบับขนมหวานไทยแท้ เติมน้ำแข็งลงไปอีกนิดทานแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันใด 1. แตงไทยสุก 1 ลูก 2. น้ำตาลมะพร้าวอย่างดี 150 กรัม (ปรับเพิ่มลดได้ตามชอบ) 3. หัวกะทิสด 250 ml 4. เกลือป่นเล็กน้อย 5. ปอกเปลือกแตงไทย ล้างน้ำและหั่นชิ้นพอดีคำ 2. นำหัวกะทิสดใส่น้ำตาลมะพร้าวคนจนน้ำตาลละลาย จากนั้นจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง และยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่เกลือเล็กน้อย คนเรื่อยๆอย่าให้เดือด จนกะทิขึ้นไอร้อนยกลงพักให้เย็น 3. ตักแตงไทยจัดเสิร์ฟพร้อมน้ำกะทิและน้ำแข็งบด 4. เต้าฮวยเมล่อน อากาศร้อนๆ แบบนี้ถ้าได้ได้เต้าฮวยเนื้อนุ่มเด้งเย็นๆ หวานหอมกลิ่นนมสักถ้วยแล้วหล่ะก็คงเป็นวันที่มีความสุขแน่อน และยิ่งถ้าเติมเมล่อนเข้าไปก็เป็นอะไรที่จะสุขสุดขีด บอกเลยว่าถ้วยเดียวไม่เคยพอมีติดตู้เย็นไว้คือดีอ่ะ!
รวมมิตรทับทิมกรอบ ★ รวมมิตรทับทิมกรอบ เมนูคลายร้อน หวานเย็นชื่นใจ ทับทิมกรอบสีแดงสดสวยหวานชวนกิน ราดด้วยน้ำกะทอหวานมั น ขนุนหั่นยาว 1/2 ถ้วย เมล็ดข้าวโพดต้ม 1/2 ถ้วย เนื้อมะพร้าวเผาหั่นยาว 1/2 ถ้วย วุ้นขาวหั่นยาว 1/2 ถ้วย ทับทิมกรอบ 1 ถ้วย ส่วนผสมทับทิมกรอบ แห้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก (ขนาดเท่าเม็ดทับทิม) รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หรือสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด 1 ถ้วย แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย สีผสมอาหารสีแดงเล็กน้อย กะทิ 2 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย น้ำเปล่า 1 ถ้วย ทำทับทิมกรอบโดยหั่นแห้วเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดขนาดประมาณ 0.
เตรียมน้ำเชื่อมโดยการต้มน้ำ น้ำตาลทรายแดงและลำไยแห้งด้วยกัน รอจนน้ำเชื่อมเดือด ยกลงพักไว้ 2. ตักธัญญาพืชตามชอบ ใส่น้ำแข็งบดและน้ำเชื่อมแล้วจัดเสิร์ฟ 7. วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน มาถึงเมนูสุดท้ายกันแล้วเป็นเมนูขนมหวานวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน วุ้นกะทิที่มีรสชาติหวานมันเค็มปะแหล่มตัดรสอย่างลงตัว ผสมผสานกับความหอมของมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวอ่อน ทานตอนออกจากตู้เย็นใหม่ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเลยทีเดียว 1. หัวกะทิ 500 กรัม 2. เกลือ 1 ช้อนชา 3. น้ำตาลทราย 200 กรัม 4. ผงวุ้น 10 กรัม 5. เนื้อและน้ำมะพร้าวน้ำหอม 2 ลูก 1. ใส่หัวกะทิ เกลือ น้ำตาล น้ำมะพร้าว และผงวุ้นในหม้อ คนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วต้มจนเดือด 2. ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป ปิดไฟยกลง 3. ใส่น้ำวุ้นร้อน ๆ ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ แช่ตู้เย็นรอวุ้นเซ็ตตัว มีให้เลือกทำกินมากมายตั้ง 7 เมนูขนาดนี้บอกเลยว่าทำกิน 7 วัน 7 เมนูขนมหวานก็ยังไหวแถมอร่อยชื่นใจในวันที่อากาศร้อนจนโลกแทบแตก ยังไงก็อย่าลืมเอาสูตรขนมหวานที่นำมาฝากไปทำกันดูนะคะ รสชาติหน้าตาเป็นยังไงก็อย่าลืมเอามาแชร์ให้ดูกันบ้างนะคะ
ขนมฝอยทอง ส่วนผสม 1. ไข่เป็ด 20 ฟอง 2. ไข่ไก่ 10 ฟอง 3. น้ำค้างไข่ 3 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำเชื่อมใช้น้ำตาลทราย 1 1/2 ก. ก. 5. น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง วิธีทำขนมฝอยทอง 1. นำน้ำตาลทราย น้ำ ตั้งไฟพอเดือดน้ำตาลละลาย ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟเคี่ยวต่อให้น้ำเชื่อมมีลักษณะไม่ข้น หรือใสเกินไป 2. ตอกไข่ แยกไข่ขาวออกใช้แต่ไข่แดง และเก็บน้ำไข่ขาวที่ใสไม่เป็นลิ่มเรียกว่าน้ำค้างไข่ เก็บไว้ต่างหาก นำไข่แดงใส่ผ้าขาวบาง รีดเยื้อไข่ออก ผสมไข่แดงกับน้ำค้างไข่ตามส่วน คนให้เข้ากัน 3. กระทะทองใส่น้ำเชื่อมเดือด ๆ เตรียมไว้ทำกรวยด้วยใบตองหรือใช้กรวยโลหะ ใส่ไข่แดงโรยในน้ำเชื่อมเดือดๆ ไปรอบ ๆ ประมาณ 20-30 รอบ เส้นไข่สุกใช้ไม้แหลมสอยขึ้นจากน้ำเชื่อม พับเป็นแพอบด้วยควันเทียนหลังจากเย็นแล้ว ข้อแนะนำ 1. แยกไข่แดงแล้วยังไม่ใช้ ให้หาภาชนะปิดไว้เพื่อไม่ให้ไข่แห้งแข็ง 2. สูตรนี้จะได้ ฝอยทองประมาณ 20 แพ ขนมทองหยอด ทองหยอด อีกอย่างหนึ่งของ รายการอาหาร เมนนูประจำ ของใครๆ หลายคน คนไทย นิยม รับประทาน อย่างมาก เนื่องจาก เป็น เมนู ที่ รสชาติ อร่อย และ เต็มไปด้วย สารอาหารที่มีประโยชน์ ถือได้ว่า เมนู ที่ เหมาะกับ ทุกเพศ ทุกวัย ส่วนผสม 1.
คลุกสตรอเบอรี่ด้วยเกลือป่น ทิ้งไว้สัก๒๐ นาที ๖. เทน้ำเชื้อมลงไปในภาชนะที่ใส่สตรอเบอรี่ ใครอยากจะใส่กล่องหรือขวดโหลก็ตามแต่สะดวกเลยค่ะ แต่อันนี้เราใช้กะละมังสแตนเลส แหะๆ ๗. ใช้พลาสติกห่ออาหารปิดให้แน่น ถ้าใครมีขวดโหลหรือกล่องที่มีฝาก็ปิดฝาโลด ถ้าน้ำเชื่อมยังไม่เย็นก็วางทิ้งไว้สักแป๊บ เสร็จแล้วเราก็เอาเข้าไปแช่ในตู้เย็น ขั้นนี้เราแช่ข้ามคืนไว้เลย เอาออกมากินอีกทีก็ตอนกลางวันของวันถัดมา ๘. เอาออกจากตู้เย็น ตักใส่ถ้วยกับน้ำแข็งพร้อมเสิร์ฟ กินตอนอากาศร้อนๆแบบนี้ชื่นใจที่สุด ที่มา: เมนูนำทาง เรื่อง