7 บาท ทำให้หุ้นในพอร์ตมีมูลค่า 0. 7*1, 000 = 700 บาท ขาดทุน 300 บาท คาดการณ์ว่า ราคาหุ้น B จะลดลงต่ำกว่าแนวรับแรกที่ 0. 7 บาท ตัดสินใจขายหุ้น B ออกไปก่อน 500 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0. 7 บาท ได้เงิน 350 บาท ทำให้ต้นทุนเหลือ 1, 000 -350 = 650 บาท โดยขณะนี้หุ้นในพอร์ตมีมูลค่า 0. 7* 500 = 350 บาท ขาดทุน 300 บาท ต่อมา หุ้น B ราคาหุ้นละ 0. 5 บาท ทำให้หุ้นในพอร์ตมีมูลค่า 0. 5*500 = 250 บาท ขาดทุน 400 บาท วิเคราะห์ว่า หุ้น B ที่ราคา 0. 5 บาทเป็นจุดต่ำสุด นำเงินที่ขายหุ้น B 350 บาท กลับเข้าซื้อหุ้น B ที่ราคา 0. 5 บาท ได้ 350 / 0. 5 = 700 หุ้น ต้นทุนกลับมาเป็น 650+350 = 1, 000 บาท โดยพอร์ตมีมูลค่า 0. 5*(500+700) = 600 บาท หุ้น B ราคาเด้งกลับไปชนแนวต้านที่หุ้นละ 0. 80 บาท ทำให้พอร์ตมีมูลค่า 0. 8*1, 200 = 960 บาท ขาดทุน 40 บาท
30 บาท หรือเพิ่มขึ้นราว 196% จากราคา IPO แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดราคาหุ้นเคลื่อนไหวในระดับ 3.
มีบัญชีอยู่แล้ว? หนีดอย needoy ธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ การลงทุน 40K ผู้ติดตาม หากใครอยากได้ข้อมูลการลงทุนแบบฉับไว ไม่พลาดทุกการลงทุนในทุกสินทรัพย์ กด Follow Twitter "หนีดอย" พร้อมกดกระดิ่งแจ้งเตือนได้ที่ สร้างเพจเมื่อ 21 ม. ค. 2021 ซีรีส์สำหรับคุณ โพสต์ปักหมุด คัมภีร์ หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง เลือกเรียนได้ในสิ่งที่อยากรู้ สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ by หนีดอย ประจำวันที่ 8 เม. ย. 2022 "Dow Jones ปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเ... อ่านต่อ สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ by หนีดอย ประจำวันที่ 7 เม. 2022 "Dow Jones ปิดลบ หลังรายงานการประชุมเดือนมี. ของธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดของงบดุลและเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ"... อ่านต่อ สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ by หนีดอย ประจำวันที่ 6 เม. 2022 "Dow Jones ปิดร่วงลง หลังจากนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเร่งปรับลดขนาดของงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้... อ่านต่อ สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ by หนีดอย ประจำวันที่ 5 เม.
- ธุรกิจจะยังไปต่อได้หรือไม่ มีอะไรที่เปลี่ยน หรือจะถูกดิสรัปหรือเปล่า? - ถ้าอุตสาหกรรมยังไปต่อได้ แต่กำไรของบริษัทไม่ดีด้วยตัวของมันเอง ต้องไปดูว่าในแง่ของโครงสร้างทางการเงินมีอะไรเปลี่ยน หนี้สินเยอะไปหรือไม่?
นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) เซียนหุ้น VI ที่คร่ำหวอดในวงการตลาดทุนมาอย่างยาวนาน กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% ซึ่งยังไม่รวมเงินปันผล แต่พบว่ายังมีนักลงทุนขาดทุนจากการลงทุนแบบเก็งกำไรจำนวนมาก โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในหุ้นที่ไม่มีพื้นฐาน "ผมบอกได้เลยว่าถ้าเลือกกลยุทธ์เก็งกำไรมีแต่ขาดทุน คือ ขาดทุนทั้งราคาหุ้นและขาดทุนค่าคอมมิชชัน นักลงทุนหน้าใหม่ควรเลือกซื้อหุ้น เพราะหุ้นตัวนั้นมีกิจการที่ดี มีเงินปันผล ไม่ใช่ซื้อเพื่อหวังเก็งกำไรอย่างเดียว" ดร. นิเวศน์ กล่าวยอมรับว่า ทราบมาเหมือนกันว่านักลงทุนหน้าใหม่ติดหุ้นเยอะ จึงอยากฝากเตือนให้ระมัดระวัง ไม่ควรลงทุนแบบไล่ราคาหุ้นเพราะมีต้นทุนและความเสี่ยงสูง "การเก็งกำไรคือการเล่นกับคนที่ได้เปรียบกว่าเรา ซึ่งไม่คุ้มค่า ผมมองว่าตลาดหุ้นไม่ใช่ที่ที่จะหาเงินได้ง่ายๆ เพราะมันมีโอกาสที่จะเสียด้วย นักลงทุนหน้าใหม่ต้องรู้ข้อนี้" ดร. นิเวศน์ กล่าว ด้าน เสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง อีกหนึ่งเซียนหุ้นพอร์ตพันล้าน กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนมีโอกาสที่จะผิดพลาด แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องยึดมั่นคือวินัยการลงทุน โดยจะต้องตัดสินใจตัดขายหุ้นตัวนั้นทันทีเพื่อหยุดขาดทุนเมื่อพบว่ามาผิดทาง "ผมเองก็ผิดพลาดบ้าง แต่ผมจะยอมตัดขาดทุนเร็วเมื่อมาผิดทาง นักลงทุนรุ่นใหม่ก็ควรใช้กลยุทธนี้แล้วกลับมาตั้งหลัก เลือกหุ้นที่ดีใหม่ ถ้าเราเลือกหุ้นดี สุด ท้ายก็จะมาคัฟเวอร์กับที่เราเสียไปและตีกลับมาเป็นกำไรได้" ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH Twitter: Instagram: Official Line คลิก